วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เห็ดฟางในตระกร้า เพาะง่าย เนื้อที่น้อย รายได้เกินแสน



กระแสรักสุขภาพยังคงไม่หนีไปไหน เห็ดฟางเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของผู้บริโภคและผู้ปลูก ใครที่ต้องการหารายได้เสริมจากการเพาะเห็ดฟางขาย และมีพื้นที่ไม่มาก เหมาะกับเรื่องราวที่จะนำเสนอต่อไปนี้


เทคนิคการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า 
      
       นั่นคือ เทคนิคการเพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติก การเพาะเห็ดฟางในตะกร้านี้เป็นวิธีการเพาะเห็ดฟางที่ประยุกต์ขึ้นมา แต่เดิมนั้นการเพาะเห็ดฟางแบบทั่วไปใช้พื้นที่ใน แนวราบ มาตรฐานของการเพาะเห็ดฟางในพื้นที่ราบ 1 ตารางเมตร ได้ผลผลิตได้ถึง 3 กิโลกรัม ถือว่ายอดเยี่ยมการเพาะเห็ดฟางแบบใน ตะกร้าจะใช้พื้นที่ในแนวสูงกับแนวราบของพื้นที่ตะกร้าที่เป็นทรงกระบอก
      
       โดยสามารถใช้ตะกร้าซักผ้า ตะกร้าใส่ผลไม้ ตะกร้าใส่ปลา ของชาวประมง คือไม่สูงมากประมาณ 1 ฟุต รอบ ๆ ตะกร้าจะมีตามีช่องด้านบนเห็ดก็สามารถออกได้ และสามารถนำตะกร้าซ้อนกันได้หลายชั้น เป็นลักษณะของการเพิ่มพื้นที่การออกดอกของดอกเห็ด ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีทำเหมาะกับทุกรูปแบบ 
ตระกร้าพลาสติก

จุดคุ้มทุน เมื่อเทียบกับการเพาะแบบอื่นๆ 
      
       จุดคุ้มทุน ทั้งนี้ จากการเก็บตัวเลขในกระบวนวิจัยบนพื้นที่ 1 ตารางเมตร สามารถวางได้ถึง 9 ตะกร้า โดยวางชั้นเดียวเมื่อ 1 ตารางเมตร วางได้ถึง 9 ตะกร้า จะได้เห็ดไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม ต่อ 1 ตะกร้า เพราะฉะนั้น 1 ตารางเมตร ได้อย่างน้อย 9 กิโลกรัม เปรียบเทียบ
       แบบกอง คือ 3 กิโลกรัม แบบตะกร้าได้มากกว่า แนวทางในการพัฒนาตรงนี้ค่อนข้างจะเป็นที่สนใจของนักวิชาการ และผู้สนใจที่จะเพาะเห็ดอยู่มาก
      
 
วัสดุที่ใช้ในการเพาะเห็ด 
      
       วัสดุที่เพาะเห็ดฟางนั่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ฟางข้าว ถั่ว หรือเปลือกถั่วได้ทุกชนิด เปลือกมันสำปะหลัง ต้นข้าวโพดแห้ง (นำมาสับ และนำไปแช่น้ำก็สามารถนำมาเพาะได้เช่นกัน ) ผักตบชวา ต้นกล้วยหั่นตากแห้ง ทะลายปาล์ม หรือผลปาล์ม ขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อนทุกชนิด แม้แต่กระดาษก็สามารถนำมาเพาะเห็ดฟางได้ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมนำกระสอบป่านเก่าๆ ผ่านการแช่น้ำมาแล้ว มาใช้เป็นวัสดุได้เช่นกัน เรียกได้ว่า อะไรที่มาจากธรรมชาติ และเก็บความชื้นได้ดี ก็สามารถนำมาเป็นวัสดุในการเพาะเห็ดฟางได้ทั้งสิ้น
      
       ทั้งนี้ ในแต่ละพื้นที่ก็อาจจะมีวัสดุที่แตกต่างกันไป แต่ที่ได้รับความนิยมในภาคใต้ ก็จะเป็นพวก ขุยมะพร้าว โดยขุยมะพร้าว 2 ส่วน นำมาผสมกับขี้วัว 1 ส่วน ซึ่งข้อดีของการใช้ขุยมะพร้าวกับขี้วัว ก็คือ เราจะได้ความชื้นและมีอาหารจากขี้วัว มาช่วยบำรุงให้เห็ดนั้นเติบโตได้เร็วขึ้น
      
       อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา เกษตรกรมักจะนิยมใช้ฟางข้าว เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เห็ดฟาง บรรพบุรุษของเราจะใช้ฟางข้าวในการเพาะเห็ด หรือ เห็ดจะขึ้นเองตามกองฟาง แต่ปัจจุบันที่เราไม่พบเห็นเห็ดตามกองฟาง เหมือนในอดีต เพราะ ฟางข้าวมีสารเคมีตกค้าง จากการที่เกษตรกรใช้สารพิษ ในการฆ่าแมลง และใช้ปุ๋ยเคมีในการบำรุงข้าว เป็นสาเหตุที่เราไม่แนะนำให้ใช้ฟางข้าว เพราะนอกจากเห็ดจะไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควรเพราะสารเคมีแล้ว สารพิษที่ตกค้างในฟางข้าวยังซึมผ่านเส้นใยของเห็ด เมื่อเราบริโภคเห็ดเข้าไปก็รับสารพิษเข้าไปด้วย 
ฟางข้าว
ขุยมะพร้าว

ขั้นตอนการเพาะเห็ดฟาง 
      
         1) นำวัสดุเพาะใส่ลงตะกร้าสูงจากตะกร้าประมาณ 2-3 นิ้ว กดด้วยไม้ให้พอแน่น ให้ชิดขอบตะกร้าให้มากที่สุด
          2) นำอาหารเสริมผักตบชวา โรยบนขี้เลื่อยให้ชิดตะกร้า กว้าง 2-3 นิ้ว สูง 1 นิ้ว
          3) นำเชื้อเห็ดฟางฉีกเป็นชิ้นขนาด 1-2 ซม. คลุกกับแป้งสาลี แบ่งเชื้อเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน นำส่วนที่ 1 วางเป็นจุดๆ ห่างกันประมาณ 5-10 ซม. ทำเช่นนี้จำนวน 3 ชั้น
          4) ชั้นที่ 4 วางอาหารเสริมให้เต็มพื้นที่ของตะกร้า โรยเชื้อเห็ดให้เต็มพื้นที่เช่นกัน โรยขี้เลื่อยให้เต็มตะกร้า
          5) นำน้ำประมาณ 2 ลิตร ลดลงด้านบนให้ชุ่ม วางตะกร้าในโรงเรือน หรือกระโจมที่เตรียมไว้
          6) วางตะกร้าซ้อนกันได้ไม่เกิน 4 ใบ นำพลาสติกมาคลุมกระโจม หรือโครงไม้ไผ่จากบนลงล่าง คลุมให้มิด ด้านล่างควรใช้อิฐหรือไม้ทับเพื่อป้องกันพลาสติกเปิดออก
          7) ช่วงวันที่ 1-4 วันแรก อุณหภูมิจะอยู่ในระดับ 37-40 องศาเซลเซียส
          8) วันที่ 4 ให้เปิดพลาสติกคลุมออก เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศ หากวัสดุเพาะแห้งให้รดน้ำได้ แต่เพียงเล็กน้อย
          9) วันที่ 5-8 ต้องควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 28-32 องศาเซลเซียส
          10) การเก็บเกี่ยววันที่ 8-9 เห็ดฟางเริ่มให้ดอกขนาดโตขึ้นจนสามารถเก็บได้ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จับดอกแล้วหมุนเล็กน้อยยกขึ้น ไม่ควรใช้มีดตัดเพาะส่วนที่เหลือจะเน่าเสียลุกลามไปยังดอกอื่น เก็บเสร็จให้รีบปิดพลาสติกหรือโรงเรือนตามเดิม


ค่าใช้จ่ายในการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า มีดังนี้ 
      
       1. ตะกร้าพลาสติกขนาดสูง 11 นิ้ว ปากตะกร้ากว้างประมาณ 18 นิ้ว มีตาห่างกันประมาณ 1 นิ้ว ตะกร้าใบหนึ่งใช้ได้หลายครั้ง อาจใช้ได้นานเกิน 20 ครั้งขึ้นไป ราคาใบละประมาณ 30 บาท
      
       2. ชั้นโครงเหล็ก ใช้เหล็กแป๊ปสี่เหลี่ยมขนาด 6 หุน มาทำเป็นโครงเหล็กให้ได้ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร สูง 2 เมตร ยาง 2 เมตร ซึ่งโครงเหล็กมี 4 ชั้น สามารถวางตะกร้าเพาะได้ 40 ใบ ราคาโครงเหล็กประมาณ 705 บาท
      
       3. แผ่นพลาสติกสำหรับคลุมชั้นโครงเหล็ก ใช้แผ่นพลาสติกใสขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร ราคาประมาณ 60 บาท
      
       4. โรงเรือน ซึ่งโรงเรือนเป็นไม้ลักษณะของโรงเรือน คือนำไม้มาประกอบกันซึ่งสร้างให้มีขนาดใหญ่ จนสามารถครอบชั้นโครงเหล็กได้ ราคาโรงเรือนทั้งหมดประมาณ 900 - 1,000 บาท
      
       5. วัสดุเพาะ อาจใช้ฟางหรือก้อนขี้เลื่อยที่ผ่านการเพาะเห็ดถุงมาแล้ว ใช้ 9 ก้อนต่อ 1 ตะกร้า ราคาเฉลี่ยประมาณก้อนละ50 สตางค์ รวมเป็นเงินต่อตะกร้าประมาณ 4 - 5 บาท
      
       6. อาหารเสริม เราสามารถใช้ผักตบชวาหั่นประมาณ 1 ลิตรต่อตะกร้าคิดเป็นเงินรวมตะกร้าละไม่ถึง 1 บาท
      
       7. ค่าเชื้อเห็ดฟางแบบอีแปะถุงละประมาณ 2 บาท
      
       8. ค่าจ้างแรงงานเพาะคิดเป็นเงินตะกร้าละ 3 บาท
      
       9. ค่าจ้างดูแล คิดเป็นเงินต่อตะกร้าละประมาณ 5 บาท
      
       10. ค่าจ้างแรงงาน เพื่อการเก็บเกี่ยวและปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวต่อผลผลิตกิโลกรัมละประมาณ 5 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 2 พันบาทต้น ๆ แต่หากลบค่าใช้จ่ายเรื่องโรงเรือนออกไป ราคาเห็ดฟางต่อหนึ่งตะกร้าจะลง ทุนเพียงประมาณไม่ถึง 50 บาท เท่านั้น