เพราะปัญหาภัยแล้ง ทำให้ชาวนาที่จังหวัดพะเยา ไม่ขอรอน้ำเพื่อทำนาปรัง แต่เปลี่ยนจากแปลงนา มาเพาะเห็ดฟางขาย รายได้ต่อวันสูงสุดถึง 1,500 บาท ที่สำคัญไม่พอขายด้วย
เปลี่ยนจากแปลงนา มาเป็นที่เพาะเห็ดฟาง ยังชีพแล้ว สำหรับชาวนาในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่เคยทำนาปรังมาแทบทุกปี หันมาเพาะเห็ดฟางกลางนา เพื่อสร้างรายได้ หลังปีนี้ประสบภัยแล้งอย่างหนัก จนแทบไม่มีน้ำทำการเกษตร โดยเห็ดฟางที่เพาะได้ก็จะนำออกจำหน่ายบริเวณสถานที่เพาะเห็ดแบบสดๆ ซึ่งมีลูกค้าเดินทางมาซื้อเห็ดฟางต่อเนื่องแทบไม่พอขาย
นางสุวรรณ บุตรธรรม ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 8 เล่าว่า เพาะเห็ดฟางออกจำหน่ายเพื่อเป็นการสร้างรายได้ทดแทน ในพื้นที่เพียงไม่ถึง 1 งาน สามารถสร้างรายได้ต่อวันมากกว่า 300-1,500 บาท โดยสามารถจำหน่ายผลผลิตเห็ดฟางที่บริเวณแปลงปลูกแบบสดๆ ซึ่งมีลูกค้าเดินทางมาหาซื้ออย่างต่อเนื่อง จนผลิตแทบไม่ทัน
นางสุวรรณ เล่าว่า บริเวณแห่งนี้ทุกปีที่ผ่านมาใช้ปลูกข้าวนาปรัง แต่ปีนี้เกิด ไม่มีน้ำทำนา จึงหันมาเพาะเห็ดฟางที่เรียนรู้กับญาติมาสร้างรายได้
การเพาะเห็ดฟางจะใช้วัสดุจากธรรมชาติ และปล่อยให้เห็ดออกดอกเอง โดยไม่ใช้หัวเชื้อเร่งให้โตเร็ว แม้จะใช้ระยะเวลาที่นานกว่า ผู้ที่เพาะในโรงเรือน แต่เห็ดจะมีรสชาติที่อร่อยและปลอดสารเคมี จึงจำหน่ายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งสูงกว่าท้องตลาดที่ขายกิโลกรัมละ 70-80 บาท
ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพะเยา พบว่าแหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัดมีปริมาณที่น้อยมาก โดยเฉพาะกว๊านพะเยา ไม่สามารถระบายน้ำให้เกษตรกรทำการเกษตรทุกชนิดได้ ชาวบ้านต้องพึ่งพาแหล่งน้ำต้นทุนในพื้นที่ของตนเองทำการเกษตรที่ใช้น้ำน้อย